tag:blogger.com,1999:blog-24123725624080579802024-03-14T09:47:48.282-07:00wattasaanthanthiphttp://www.blogger.com/profile/17923367344261748279noreply@blogger.comBlogger4125tag:blogger.com,1999:blog-2412372562408057980.post-25112737821256976592008-10-14T00:59:00.000-07:002008-10-14T01:35:34.008-07:00<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhp7c5szh13_4IIh4xvRxKyQ50LL2oV8OuZcAKt6PAIiQKRmx_pnTkenU-KM6dNu4f1mhtOt1Sq2WcnWcmfV2s8O4Uk49InAmM8ei3Jk2TZPTGLftZjG7tnxUY-liecfp0rlsx9rV8lXps/s1600-h/00178+-+4x6(1).jpg"></a><br /><div></div>thanthiphttp://www.blogger.com/profile/17923367344261748279noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2412372562408057980.post-90501022482450250912008-10-14T00:17:00.000-07:002008-10-14T01:38:38.848-07:00หลักการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย<span style="font-family:arial;color:#000099;"><strong>การจัดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย</strong></span><br /><span style="color:#33ccff;"></span><span style="font-family:courier new;color:#3333ff;">การเรียนรู้ของเด็กควรเป็นการเรียนรู้โดยผ่านการเล่น เพราะเด็กในวัยนี้จะ ไม่จัดการเรียนรู้เป็นรายวิชา แต่จัดในรูปของกิจกรรมบูรณาการโดยผ่านการเล่น เพื่อให้เด็ก เกิดการเรียนรู้ ได้รับประสบการณ์ตรง ได้รับการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ซึ่งเกิจกรรม ที่จัดขึ้นควรให้มีความยืดหยุ่นตามความคิดที่เด็กริเริ่ม สนใจและต้องการ<br />นอกจากนี้ ในการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก ควรจะคำนึงถึงสาระการเรียนรู้ของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ซึ่งมีองค์ประกอบ 2 ส่วน คือ<br />ส่วนที่ 1 ส่วนที่เป็นประสบการณ์สำคัญ และส่วนที่ 2 ส่วนที่เป็นสาระที่ควรรู้ ซึ่งทั้งสองส่วนใช้เป็น สื่อในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดพัฒนาการครบทุกด้าน และมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ที่อยู่รอบตัว ซึ่งผู้เลี้ยงดูเด็กอาจจัดในลักษณะหน่วยการสอนแบบบูรณาการ หรือเลือกใช้วิธีการแบบใดก็ได้ที่สอดคล้องกับ ปรัชญาและหลักการจัดการศึกษาปฐมวัย และต้องปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่พึงประสงค์ ตลอดจน ฝึกทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น ทักษะการเคลื่อนไหว ทักษะทางสังคม ทักษะทางภาษา ทักษะทางการคิด เป็นต้น<br /><strong>ส่วนที่เป็นประสบการณ์สำคัญ</strong><br />ประสบการณ์สำคัญเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาเด็กทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา ช่วยให้เด็กเกิดทักาะที่สำคัญสำหรับการสร้างองค์ความรู้ โดยให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ สิ่งของ บุคคลต่างๆ ที่อยู่รอบตัว รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมไปพร้อมกันด้วย ประสบการณ์สำคัญมีดังนี้<br />1.1 ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ได้แก่<br />1) การทรงตัวและการประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อใหญ่<br />- การเคลื่อนไหวอยู่กับที่และการเคลื่อนไหวเครื่อนที่<br />- การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุอุปกรณ์<br />- การเล่นเครื่องเล่นสนาม<br />2) การประสานสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อเล็ก<br />- การเล่นเครื่องเล่นสัมผัส<br />- การเขียนภาพและการเล่นกับสี<br />- การปั้นและประดิษฐ์สิ่งต่างๆ ด้วยดินเหนียว ดินน้ำมัน แท่งไม้ เศษวัสดุ ฯลฯ<br />- การต่อของ บรรจุ เท และแยกชิ้นส่วน<br /><br />1.2 ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ได้แก่<br />1) ดนตรี<br />- การแสดงปฏิกริยาโต้ตอบเสียงดนตรี<br />- การเล่นเครื่องดนตรีง่ายๆ เช่น เครื่องดนตรีประเภทเคาะ ประเภทตี ฯลฯ<br />- การร้องเพลง<br />2) สุนทรียภาพ<br />- การชื่นชมและสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม<br />- การแสดงออกอย่างสนุกสนานกับเรื่องตลก ขำขัน และเรื่องราว/เหตุการณ์ที่สนุกสนาน ต่างๆ<br />3) การเล่น<br />- การเล่นอิสระ<br />- การเล่นรายบุคคล กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่<br />- การเล่นในห้องเรียนและนอกห้องเรียน<br />4) คุณธรรม จริยธรรม<br />- การปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่นับถือ<br />1.3 ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสังคม ได้แก่ การเรียนรู้ทางสังคม<br />- การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของตนเอง<br />- การเล่นและการทำงานร่วมกับผู้อื่น<br />- การวางแผน ตัดสินใจเลือก และลงมือปฏิบัติ<br />- การมีโอกาสได้รับรู้ความรู้สึก ความสนใจและความต้องการของตนเองและผู้อื่น<br />- การมีประสบการณ์ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น<br />- การแก้ปัญหาในการเล่น<br />- การมีประสบการณ์ทางวัฒนธรรมท้องถิ่นและความเป็นไทย<br />1.4 ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา ได้แก่<br />1) การคิด<br />- การรู้จักสิ่งต่างๆ ด้วยการมอง ฟัง สัมผัส ชิมรส และดกลิ่น<br />- การเลียนแบบการกระทำและเสียงต่างๆ<br />- การเชื่อมโยงภาพ ภาพถ่าย และรูปแบบต่างๆ กับสิ่งของหรือสถานที่จริง<br />- การรับรู้และแสดงความรู้สึกผ่านสื่อ วัสดุ ของเล่นและผลงาน<br />- การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านสื่อวัสดุต่างๆ<br />2) การใช้ภาษา<br />- การแสดงความรู้สึกด้วยคำพูด<br />- การพูดกับผู้อื่นเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง<br />- การอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ<br />- การฟังเรื่องราวนิทาน คำคล้องจองคำกลอน<br />- การเขียนในหลายรูปแบบผ่านประสบการณ์ที่สื่อความหมายต่อเด็ก เขียนภาพ เขียนขีดเขี่ย เขียนคล้ายตัวอักษร เขียนเหมือนสัญลักษณ์ เขียนชื่อตนเอง<br />- การอ่านในหลายรูปแบบผ่านประสบการณ์ที่สื่อความหมายต่อเด็ก อ่านภาพหรือ สัญลักษณ์จากหนังสือนิทาน/เรื่องราวที่สนใจ<br />3) การสังเกต การจำแนก และการเปรียบเทียบ<br />- การสำรวจและอธิบายความเหมือนความต่างของสิ่งต่างๆ<br />- การจับคู่ กาาจำแนก และการจัดกลุ่ม<br />- การเปรียบเทียบ เช่น ยาว/สั้น ขรุขระ/เรียบ ฯลฯ<br />- การเรียงลำดับสิ่งต่างๆ<br />- การคาดคะเนสิ่งต่างๆ<br />- การตั้งสมมติฐาน<br />- การทดลองสิ่งต่างๆ<br />- การสืบค้นข้อมูล<br />- การใช้หรืออธิบายสิ่งต่างๆ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย<br />4) จำนวน<br />- การเปรียบเทียบจำนวน มากกว่า น้อยกว่าเท่ากัน<br />- การนับสิ่งต่างๆ<br />- การจับคู่หนึ่งต่อหนึ่ง<br />- การมีประสบการณ์กับจำนวนหรือปริมาณที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง<br />5) มิติสัมพันธ์ (พื้นที่/ระยะ)<br />- การต่อเข้าด้วยกัน กายแยกออก การบรรจุและการเทออก<br />- การสังเกตสิ่งต่างๆ และสถานที่จากมุมมองที่ต่างๆ กัน<br />- การมีประสบการณ์และการอธิบายในเรื่องทิศทางการเคลื่อนที่ของคนและสิ่งต่างๆ<br />- การสื่อความหมายของมิติสัมพันธ์ด้วยภาพวาด ภาพถ่าย และรูปภาพ<br />6) เวลา<br />- การเริ่มต้นและการหยุดการกระทำโดยสัญญาณ<br />- การมีประสบการณ์และเปรียบเทียบเวลา เช่น ตอนเช้า ตอนเย็น เมื่อวานนี้ พรุ่งนี้ ฯลฯ<br />- การมีประสบการณ์และและการเรียงลำดับเหตุการณ์ต่างๆ<br />- การสังเกตความเปลี่ยนแปลงของฤดู<br /><strong>ส่วนที่เป็นสาระที่ควรเรียนรู้</strong><br />สาระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่นำมาเป็นสื่อในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ไม่เน้นการท่องจำเนื้อหา ผู้สอนสามารถกำหนดรายละเอียดขึ้นเองให้สอดคล้องกับวัย ความต้องการ และความสนใจของเด็ก โดยให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ที่สำคัญที่ระบุไว้ข้างต้น ทั้งนี้อาจยืดหยุ่นเนื้อหาได้ โดยคำนึงถึงประสบการณ์และสิ่งแวดล้อมในชีวิตจริงของเด็ก สาระที่เด็กอายุ 3-5 ปี ควรเรียนรู้ มีดังนี้<br /><em>1. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด้ก</em> เด็กควรรู้จักชื่อนามสกุล รูปร่าง หน้าตา รู้จักอวัยวะต่างๆ วิธีระวังรักษา ร่างกายให้สะอาด ปลอดภัย เรียนรู้ที่จะเล่นและทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองคนเดียว หรือกับผู้อื่น ตลอดจนเรียนรู้ที่จะ แสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และแสดงมารยาทที่ดี<br /><br /><em>2. เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก</em> เด็กควรได้มีโอกาสรู้จักและรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ ครอบครัว สถานศึกษา ชุมชน รวมทั้งบุคคลต่างๆ ที่เด็กต้องเกี่ยวข้องหรือมีโอกาสใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์ใน ชีวิตประจำวัน<br /><br /><em>3. ธรรมชาติรอบตัว</em> เด็กควรจะได้เรียนรู้สิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของโลกที่ แวดล้อมเด็กตามธรรมชาติ เช่น ฤดูกาล กลางวัน กลางคืน ฯลฯ<br /><em>4. สิ่งต่างๆ รอบตัวเด็ก</em> เด็กควรจะได้รู้จักสี ขนาดรูปร่าง รูปทรง น้ำหนัก ผิวสัมผัสของสิ่งต่างๆ รอบตัว สิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ และการสื่อสารต่างๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน<br />การจัดประสบการณ์<br />การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 3-5 ปี จะไม่จัดเป็นรายวิชา แต่จัดในรูปของกิจกรรม บูรณาการผ่านการเล่น เพื่อให้เด็กเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เกิดความรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม รวมทั้งเกิดการพัฒนาทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญา โดยมีหลักการและแนวทาง การจัดประสบการณ์ ดังนี้<br />1. หลักการจัดประสบการณ์<br />1.1 จัดประสบการณ์เล่นและการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่างต่อเนื่อง<br />1.2 เน้นเด็กเป็นสำคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหว่างบุคคลและบริบท ของสังคมที่เด็กอาศัยอยู่<br />1.3 จัดให้เด็กได้รับการพัฒนาโดยให้ความสำคัญทั้งกับกระบวนการและผลผลิต<br />1.4 จัดการประเมินพัฒนาการให้เป็นกระบวนการอย่างต่อเนื่อง และเป็นส่วนหนึ่งของการจัด ประสบการณ์<br />1.5 ให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาเด็ก<br />2. แนวทางการจัดประสบการณ์<br />2.1 จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับจิตวิทยาพัฒนาการ คือ เหมาะกับอายุ วุฒิภาวะ และระดับพัฒนาการ เพื่อให้เด็กทุกคนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ<br />2.2 จัดประสบการณ์ให้สอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้ คือ เด็กได้ลงมือกระทำ เรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้เคลื่อนไหว สำรวจ เล่น สังเกต สืบค้น ทดลอง และคิดแก้ปัญญาด้วยตนเอง<br />2.3 จัดประสบการณ์ในรูปแบบบูรณาการ คือ บูรณาการทั้งทักษะและสาระการเรียนรู้<br />2.4 จัดประสบการณ์ให้เด็กได้ริเริ่มคิด วางแผน ตัดสินใจ ลงมือกระทำ และนำเสนอความคิด โดยผู้สอนเป็นผู้สนับสนุนอำนวยความสะดวกและเรียนรู้ร่วมกับเด็ก<br />2.5 จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอื่น กับผู้ใหญ่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการ เรียนรู้ในบรรยากาศที่อบอุ่นมีความสุขและเรียนรู้การทำกิจกรรมแบบร่วมมือในลักษณะต่างๆ กัน<br />2.6 จัดประสบการณ์ให้เด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อ และแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลายและ อยู่ใน วิถีชีวิตของเด็ก<br />2.7 จัดประสบการณ์ที่ส่งเสริมลักษราะนิสัยที่ดีและทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน ตลอดจนสอด แทรกคุณธรรม จริยธรรม ให้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง<br />2.8 จัดประสบการณ์ทั้งในลักษณะที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและแผนที่เกิดขึ้นในสภาพจริง โดยไม่ได้คาดการณ์ไว้<br />2.9 ให้ผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดประสบการณ์ ทั้งการวางแผน การสนับสนุนสื่อการสอนการเข้าร่วมกิจกรรม และการประเมินพัฒนาการ<br />2.10 จัดทำสารนิทัศน์ด้วยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็น รายบุคคล นำมาไตร่ตรองและใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและการวิจัยในชั้นเรียน<br /><br />(อ้างอิงมาจาก : หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ)<br />ดังนั้น สามารถสรุปได้ว่า ในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กปฐมวัยนั้น ผู้เลี้ยงดูเด็กควรจัดกิจกรรม ต่างๆ ในรูปการบูรณาการโดยผ่านการเล่น ไม่จัดแยกเป็นรายวิชา เพื่อให้เด็กปฐมวัยได้รับประสบการณ์ตรง เกิดการเรียนรู้ ได้พัฒนาการทั้งด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา ผู้เลี้ยงดูเด็กต้องคำนึงถึงหลัก ในการจัดประสบการณ์โดยเน้นเด็กเป็นสำคัญ กิจกรรมที่จัดให้มีความสมดุลที่ให้เด็กได้ริเริ่มกิจกรรมและ ครูวางแผน กิจกรรมที่จัดในห้องเรียนและนอกห้องเรียน กิจกรรมเคลื่อนไหวและกิจกรรมสงบ กิจกรรมเดี่ยว กิจกรรมกลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่ นอกจากนี้ กิจกรรมที่จัดควรจะตอบสนองความต้องการ ความสนใจ ความ แตกต่างกันของเด็ก เน้นให้เห็นความสำคัญของกระบวนการเรียนรู้มากกว่าผลผลิต เปิดโอกาสให้ผู้ปกครอง และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการร่วมกันพัฒนาเด็ก และสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการจัดประสบการณืให้กับเด็กปฐมวัย คือ การประเมินพัฒนาการซึ่งยังคงเป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงดูเด็กส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดอยู่ นักศึกษาจึงควรศึกษาทำ ความเข้าใจกับเรื่องการประเมินพัฒนาการเด็กในรายวิชาที่ 8 ให้เข้าใจ<br />อ้างอิงมาจาก : หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ)<br /></span>thanthiphttp://www.blogger.com/profile/17923367344261748279noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2412372562408057980.post-69284586224538487112008-10-13T23:01:00.000-07:002008-10-14T01:41:15.732-07:00กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมของเด็กปฐมวัย<span style="font-family:times new roman;"></span><span style="font-family:arial;font-size:85%;color:#3333ff;"><strong>กิจกรรมหลัก 6 กิจกรรมของเด็กปฐมวัยมีดังนี้</strong></span><br /><span style="color:#3333ff;"><span style="font-family:arial;font-size:85%;"><strong>1. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ</strong> เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างอิสระตามจังหวะ ซึ่งจังหวะและดนตรีที่ใช้ประกอบได้แก่ เสียงตบมือ เสียงเพลง เสียงเคาะไม้ เคาะเหล็ก รำมะนา กลอง ฯลฯ</span><br /><span style="font-family:arial;font-size:85%;"><strong>2. กิจกรรมสร้างสรรค์</strong> เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับงานศิลปศึกษาต่าง ๆ ได้แก่ การวาดภาพระบายสี การปั้น การพิมพ์ภาพ การพับ ตัด ฉีก ปะ และประดิษฐุ์เศษวัสดุ ที่มุ่งพัฒนากระบวนการคิดสร้างสรรค์ การรับรู้เกี่ยวกับความงามและส่งเสริมกระตุ้นให้เด็กแต่ละคนได้แสดงออกตามความรู้สึกและความสามารถของตนเอง</span><br /><span style="font-family:arial;font-size:85%;"><strong>3. กิจกรรมเสรี</strong> เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้เล่นกับสื่อและเครื่องเล่นอย่างอิสระในมุมการเล่นกิจกรรมการเล่นแต่ละประเภทสนองตอบความต้องการตามธรรมชาติของเด็ก</span><br /><span style="font-family:arial;font-size:85%;"><strong>4. กิจกรรมเสริมประสบการณ์</strong> เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้ฟัง พูด สังเกต คิด และปฏิบัติการทดลอง ให้เกิดความคิดรวบยอดและเพิ่มพูนทักษะต่าง ๆ ด้วยวิธีการหลากหลาย เช่น การสนทนา ซักถามหรืออภิปราย สังเกต ทัศนศึกษา และปฏิบัติการทดลองตามกระบวนการเรียนรู้</span><br /><span style="font-family:arial;font-size:85%;"><strong>5. กิจกรรมกลางแจ้ง</strong> เป็นกิจกรรมที่จัดให้เด็กได้ออกนอกห้องเรียนไปสู่สนามเด็กเล่นทั้งที่บริเวณกลางแจ้งและในร่มเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกอย่างอิสระ โดยยึดเอาความสนใจ และความสามารถของเด็กแต่ละคนเป็นหลัก</span><br /><span style="font-family:arial;font-size:85%;"><strong>6. กิจกรรมเกมการศึกษา</strong> เป็นกิจกรรมการเล่นที่มีกระบวนการในการเล่นตามชนิดของเกมประเภทต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน</span><br /><span style="font-family:Arial;font-size:85%;">อ้างอิงมาจาก: แผนการจัดประสบการณ์ ชั้นอนุบาลปีที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการการปถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ</span></span>thanthiphttp://www.blogger.com/profile/17923367344261748279noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2412372562408057980.post-88463238665660324872008-10-13T20:55:00.000-07:002008-10-14T00:44:30.325-07:00แนะนำนักศึกษาฝึกสอน<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6UBBNSDyhJqQcHYL_4EoPjeDg8eDENOLP0MsVGGy46-JfGmt_OZHIp6n00-U17Hq-DO3MrJDTI8GjXA3yUC6N9FRCk77t7ToLOX0p1EyMlN83VY39q1RV0JmhvXPy5vX5KJMDytka0Rs/s1600-h/00179+-+4x6(1).jpg"><strong><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5256863507306053266" style="FLOAT: right; MARGIN: 0px 0px 10px 10px; CURSOR: hand" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg6UBBNSDyhJqQcHYL_4EoPjeDg8eDENOLP0MsVGGy46-JfGmt_OZHIp6n00-U17Hq-DO3MrJDTI8GjXA3yUC6N9FRCk77t7ToLOX0p1EyMlN83VY39q1RV0JmhvXPy5vX5KJMDytka0Rs/s200/00179+-+4x6(1).jpg" border="0" /></strong></a><strong> </strong><span style="font-size:130%;"><strong>โรงเรียนวัดท่าสะอ้าน"บูรณะสินอนุสรณ์" ภาพและรายชื่อนักศึกษาฝึกสอนมีดังนี้ </strong></span><br /><span style="font-size:130%;"></span><br /><br /><span style="font-size:130%;"></span><br /><span style="font-size:130%;"><span style="font-family:courier new;"><span style="font-size:100%;">นางสาวธารทิพย์ ฤทธิเรือง<br />รหัส 48003116018<br />โปรแกรมการศึกษาปฐมวัย<br /></span><br /></span></span><span style="font-size:130%;"></span><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEithoiKI1AGyfWYHVHkP8Z8zTfIG3ROdd_1LoLoPihFBqOBWgTRev4oYLjr5jFXFiS6frZGZDlqyEj7O1ogHKLlevXYx2Lgzrb6pRbJAIe_lZiK2KC8e0I92nNU0lB-xgZkgkyqYi4yhQ4/s1600-h/00179+-+4x6(1).jpg"></a><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiBILY2N5n8XtK2H_dfTLrF63OM0Rh_8Sl-qsQZIxZbdYuBlrEie2VIzzanA3kH7gc33s4rNkxvQUDnwXW98_q8uLn2spRpmmytvv7JTIPudUKTkJBREDexDYDPvUqPYTiqbhCV92j4gHE/s1600-h/00183+-+4x6(1).jpg"><span style="font-family:arial;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5256862878096512306" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 193px; CURSOR: hand; HEIGHT: 137px" height="202" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiBILY2N5n8XtK2H_dfTLrF63OM0Rh_8Sl-qsQZIxZbdYuBlrEie2VIzzanA3kH7gc33s4rNkxvQUDnwXW98_q8uLn2spRpmmytvv7JTIPudUKTkJBREDexDYDPvUqPYTiqbhCV92j4gHE/s200/00183+-+4x6(1).jpg" width="200" border="0" /></span></a><span style="font-family:arial;"><br /></span><br /><br /><span style="font-family:courier new;">นางสาว เกษร เธียรประมุข </span><div><span style="font-family:courier new;">รหัส 48003116004</span></div><div><span style="font-family:courier new;">โปรแกรมการศึกษาปฐมวัย<br /><br /></span></div>thanthiphttp://www.blogger.com/profile/17923367344261748279noreply@blogger.com0